เตรียมตัวให้พร้อม!มันกำลังมา แจ้งข่าวสารการชำระโลก

+++ ใช่แล้ว "ปรุงจนเละ แล้วบอกว่า เป็น มัก 8"

เตรียมตัวให้พร้อม...ปรุงกำลังเมา! แจ้งข่าวสารการชำระจนไม่มีสติ

+++ อือ ... "พร้อม/ไม่พร้อม...มันมาแล้ว! กำลังจะหมดสติ"

 

สเต็บผม คิด จินตนาการ นิมิต หาเรื่อง หาข้อแก้ตัว ยังไงเราเกิดมาบนโลกกลมๆ ต้องเจอกันเข้าสักวัน ก็ต้องมีเรื่องเป็นธรรมดา ผมอาจจะหาลู่ทางการแก้ตัวไว้ก่อนแล้ว เพื่ออนาคตจะได้ไม่มีปัญหามาก

 

+++ อื้อหือ .... ตามซาบาย ... ตัวคัยตัวมันเนอะ ... 555

 

ถ้าไม่มีสติสัมปชัญญะ จิตไม่ว่างจริง เห็นอารมณ์กรรมที่เป็นคุณเป็นโทษไม่ได้หรอกค่ะ

คนเราจะแก้นิสัยตนเองได้ ต้องเห็นอารมณ์กรรมที่เป็นคุณ เป็นโทษก่อนค่ะ

 

+++ จิงง่ะ... ถ้าจิง... ให้ระบุ "กายวิภาคศาสตร์ (anatomy)" ของสิ่งที่เรียกว่า "อารมณ์กรรม" ออกมาให้ "คนธรรมดา" เข้าใจ/รู้เรื่อง ด้วยนะ

+++ ถ้ายัง "ระบุไม่ได้" ก็อย่าเพิ่งรีบร้อน ใช้คำศัพท์ประเภทนี้ นะ
+++ ให้ใช้ "ภาษาของตนเอง" ห้าม ตัดแปะ มาจากที่อื่น ๆ
+++ เอ้า... แสดง "วิธีทำ" มาด้วยนะ

 

พลังอำนาจของจิตวิญญาณ เป็นปัจจัยสำคัญคือ
๑.สติปัญญาความเฉลียวฉลาด
๒.ความรวดเร็วในการเคลื่อนที่เดินทาง
๓.แรงเหวี่ยงหนีแรงดึงดูดรั้งของเอกภพ

สาเหตุที่นิพพานไม่ได้ ก็คือ การไม่หมุนธรรมจักรในตนเอง หรือ มรรคแปด มันจะส่งผลให้พลังอำนาจทางจิตวิญญาณของตนเองต้องอ่อนด้อนลงไปเรื่อย ๆ จึงนิพพานไม่ได้

บางคนมีข้อเดียว บางคนมีสองข้อ แต่คนที่มีพร้อมก็มีพลังอำนาจทางจิตวิญญาณมาก จึงนิพพานได้

จิตยิ้มกำลังสั่งสมข้อ 1 แต่ขาดข้อ 2 และ 3 จึงต้องฝึกพลังจิตด้วย แต่ใครที่มีข้อ 2 และ 3 แล้ว ก็ขัดเกลาจิตใจให้ใสบริสุทธิ์ค่ะ

 

เมื่อกี้ครับพลัง UI รึเปล่าแค่สลบหลับไปได้ 5 นาที ตื่นมาสมองโล่งเลย มาพิมพ์ต่อได้เลยจากล้าๆ น่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ยถ้าเอาไปฝึกด้านร่างกาย

 

ผมหลับไม่ลงเลยอะช่วงนี้ โดนคอมโบเจ้าที่กับคนที่บ้าน จะนอนก็เจอยุงบินทะลุมุ้ง อะไรนักหนา ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล

 

อริยำชนตลกไม่หยุด มีความเพียรเปลี่ยนไอดี
เกาะรั้วตะโกนไม่เลิกฮับ555

 

ลุงอย่าดึงโพสหนูขึ้นมาบ่อยดิ เดี๋ยวนู๋โดนเขาด่า ช่วงนี้หนูไม่สู้คนนะ 55

 

ยาหมด ต้องไปตามหมอนัดครับ เเละรับยาตามหมอสั่ง มันช่วยได้ครับ

 

นั่นผู้เขียนเค้าหมายถึงพลังงาน( จิต)
ภายหลัง
จากที่ร่างกายหยุดทำงานไปแล้ว
นะฮับ เพื่อต้องการจะบอกว่า
ถ้าขาดองค์ประกอบ 3 อย่าง
นั้นแล้วจะนิพพานไม่ได้
..... เป็นทฤษฎีอะไรน่าฮงมากฮับ

 

สมาธิหมุน รัตนปังโยเย ที่ทำ เครื่องเรียกฝน

มันจะมี สภาพเหมือน หมุนวน เหวี่ยงซ้ำ
มาจุดๆนึง จุดๆนั้น พอเวียนซ้ำ ก้จะใส่
อุปาทาน เหมือนถาม เหมือนตอบ เหมือน
ออก เหมือนมีกลุ่ม ตอบรับ...ซึ่งจะมี
ความหนัก เจ็บ แสบ กาย เวลา
จะถามตอบ.....เหมือนมึน ใกล้ตาย
หืดจับ(จึงเปนที่มา ที่ระบุว่า ต้องเหวี่ยงเร็ว
นิดนึง ถ้าไม่พอ จะเหมือน ฉีกออกไป รู้
รับ ไม่ได้)

ในอียิป ที่ชื่อ โซโลม่อน จะมีแบบนี้
แต่ออริจินอล จะต้องขังตัวในห้อง
อับอากาศใต้ปิลามิด แล้ว แทงตัวเองให้เลือด
ไหลเกือบหมดตัว....ตามประวัติ
โซโลม่อน ตายแหงแก๋ คนคุมพิธี
เปิดห้องเอามารับยาช่องสองไม่ทัน

 

เมื่อเช้าฝันว่าวิ่งจ๊อกกิ้งแถวหมู่บ้านหนึ่ง ใบ้อะไร

 

ตอนนี้กรุงเทพอยู่ในช่วงวิกฤติฝุ่นละอองขนาดเล็กทำลายสุขภาพ วิธีแก้ปัญหาคือการใช้ฝนหลวง หรือการฉีดน้ำชำระล้างฝุ่นละอองให้ออกไปจากชั้นบรรยากาศ เพื่อลงสู่พิ้นดิน

พอลลูชั่นใด ๆ จะต้องถูกชำระล้างออกไป ....

พอลลูชั่นคือ ภาวะฝุ่นสีน้ำตาลมลภาวะที่เป็นพิษทางอากาศ ที่มีสีน้ำตาล หากจะกล่าวแล้ว คำว่า "ฝนกรด" ก็คือมลภาวะเป็นพิษทางอากาศที่สะสมไว้ในชั้นบรรยากาศมาก หากถูกกับน้ำฝนจะกลายเป็นฝนกรด ซึ่งเคยอ่านข่าวต่างประเทศเคยเกิดขี้นแล้ว

ได้เคยกล่าวไว้ว่า...ระยะสุดท้ายของช่วงเวลาชำระโลก จะมีฝนตกสิบห่าใหญ่ที่ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ก็น่าจะมาจากการชำระล้าง พอลลูชั่นในโลก เพื่อคืนความงดงามของท้องฟ้าให้โลกสดใสคงเดิม สมกับคำว่า "โลกยุคใหม่"

ทำไมกรุงเทพ!! น้ำต้องท่วม....

เพราะกรุงเทพมีขยะเทคโนโลยีที่ทำลายโลกได้ไม่แพ้เมืองอุตสาหกรรมอื่น ๆ ใดในโลกนี้ ที่ต้องรับผลของกรรมของกลุ่มคนในสังคมนั้น สภาวะวิกฤติใดๆ ตวามหนักหนาแห่งเคราะห์ภัย คือเครื่องชี้บุรพกรรมในอดีต ที่มนุษย์ได้กระทำสิ่งที่ไม่ดีไม่งามทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อโลก ประกอบด้วยแผ่นดิน พื้นน้ำ ภูมิอากาศ พืชพันธ์ธัญญาหารและกายภาพโลก

ความมักง่ายของมนุษย์และความอยากไม่มีสิ้นสุดจากจิตไร้สำนึก นับวันทำให้มนุษย์ขาดสติทางวิญญาณกันมากขึ้น ขณะที่ผลร้ายจากสิ่งแวดล้อมที่ถูกกระทำเหล่านั้นค่อยๆคืบคลานเพื่อหยิบยื่นความสมดุลให้กับตนเอง โดยย้อนเข้ามาจัดการกับมนุษย์ผู้กระทำ ในลักษณะคล้ายเอาคืนที่มนุษย์ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เลย นอกจากนั้น การกระทำใด ๆ ที่ไม่ถูกต้องของมนุษย์โลก ยังส่งผลถึงการเสียสมดุลของโลกและจักรวาลไปนเวลาเดียวกันด้วย มิใช่เกิดบนโลกใบนี้เท่านั้น

การเปลี่นแปลงโครงข่ายสนามแม่เหล็กเพื่อนำไปสู่โลกใหม่ มนุษย์จะพิสูจน์รู้ความจริงได้ จากที่มนุษย์แลเห็นกลุ่มดาวใหม่ และกาแล๊กซี่ใหม่ ๆ

ความสมดุลของโลกในศาสตร์จักรวาล...

ถ้าหากสิ่งจะกล่าวต่อไปนี้ หากสิ่งใดสิ่งหนึ่งขาดความสมดุลไป ความไม่สมดุลของดาวเคราะห์โลกจะเกิดขึ้นทันที พลอยให้จักรวาลทั้งระบบย่อยยับตามไปด้วย

1.ความสมดุลของรูปธรรมบนโลก คือ น้ำหมักมวลโดยรวมของรูปธรรมต่าง ๆ (ไม่ใช่จำนวนของทุกสรรพสิ่งที่รวมกันในการคิดแบบจิตมนุษย์ แต่มีนัยยะให้หมายถึง น้ำหนักมวลรูปธรรมทางจิตวิญญาณ ที่ขาดความสมดุลที่ทำให้จิตวิญญาณต้องแบกรับมวลเพิ่มขึ้น และ ขยะพลังงานลบคลื่นอิเลคตรอนอิสระในชั้นบรรยากาศโลก นอกเหนือจากมลพิษทางอากาศ) คือ จะต้อพอดีกับแรงเหวี่ยงรอบตัวเองที่โคจรรอบดวงอาทิตย์

2.ความสมดุลแรงสั่นสะเทือนของโลก ที่ออกมาจากแก่นใจกลางโลกที่ผลิตมอบให้กับโลกใช้สร้างสนามแม่เหล็กโลก

3.ความสมดุลแรงเหวี่ยงของโลก การสั่นสะเทือนทางจิตสำนึกด้านบวกของมนุษย์แบบรวมหมู่ร่วมกัน จึงช่วยให้โลกเกิดแรงหวี่ยง เพื่อการหมุนรอบตัวเอในอัตราความเร็วที่สมดุลได้ตลอดไป คลื่นพลังบวกที่แผ่ออกมาโดยมีระดับที่แตกต่างกันออกไปแต่มีด้านบวกเหมือนกันแม้จะไม่เท่ากันของแต่ละคน จะเกิดการผลักดันให้มีการหันเหระหว่างกัน จนเกิดการหมุนวนของพลังงานขึ้น พลังงานด้านบวกที่เกิดการหมุนวนกันนั้น สามารถช่วยเสริมแรงเหวี่ยงรอบตัวของโลกเราได้

ถ้าคลื่นนพลังงานด้านลบของจิตสำนึกมนุษย์ที่แผ่ออกมามาก ๆ มันจะยิ่งทำให้แรงเหวี่ยงของโลกถดถอยลงเพราะการหมุนมันไม่คงที่สมำเสมอ หากช้าลงเรื่อย ๆ แกนหมุนของโลกจะเอียงไปจากเดิมทันที โลกจะเสียสมดุลการทรงตัวตามไปด้วย

4.ความสมดุลของอำนาจแม่เหล็กโลก การทดลองระเบิดนิวเคลียร์ การระเบิดของภูเขาไฟบนโลก คลื่นวิทยุ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สนามแม่เหล็กเทียม การขุดเจาะดึงพลังงานจากใต้ดินมาใช้ ล้วนจะมีผลทำให้ลดทอนพลังอำนานแม่เหล็กโลกได้ทั้งสิ้น ที่จะอ่อนตัวลงเรื่อย ๆ ความเข้มของสนามแม่เหล็กโลกจึงต้องมีความสมดุลเสมอ

สภาวะโลกกำลังประสบอยู่ขณะนี้ทางด้านรูปธรรม (ทางภายภาพของโลก)

มนุษย์จงอย่าเชื่อคำพยากรณ์ในเรื่องภัยใด ๆ ที่จะก่อให้โลกวิกฤติ เมื่อได้สัมผัสรู้จากที่ใดก็ตาม จนสร้างความหวาดกลัวถึงขั้นครองสติไม่ได้ จงรู้จักรับฟังอย่างตั้งใจแล้วระมัดระวังตนเองไม่ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท หน้าที่ของมนุษย์คือ ไม่ปฏิเสธความรู้ใหม่นี้ การที่มนุษย์ได้ล่วงรู้ข่าวสารจากจักรวาล มันมิได้เกิดขึ้นเพราะความบังเอิญในการคิดแบบจิตมนุษย์ แต่เป็นเพราะความจงใจจากจิตจักรวาล เพื่อสร้างความมีสติทางวิญญาณให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มพลังทางวิญญาณให้มากขึ้น อันเป็นการสร้างความพร้อมต่อการเผชิญหน้ากับภัยพิบัติใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ความสงบสุขของจิตใจ จะสามารถยับยั่งความหวั่นไหวทางอารมณ์ที่รุนแรงลงได้ ความกลัวตายอาจไม่เป็นผลดีใด ๆ ต่อมนุษย์เลย ในบางสถานการณ์ที่ต้องอาจเผชิญ เพราะมันนำไปสู่ความเสียสติ ควบคุมตนเองไม่ได้ ที่เรียกว่า "สติแตก" จนไม่อาจเรียกกลับคืนมาได้ชั่วชีวิต ความสงบสุขของจิตใจทำได้โดยกุมสติให้มั่น ไม่หวั่นไหว และไม่กลัวตาย ขณะเดียวกันจงมอบตวามรักและการช่วยเหลือคนอื่น ๆ ที่ขาดความสมดุลอย่างรุนแรงจากสถานการณ์เลวร้ายนั้นด้วย

 

ฝันน่าจะบอกให้พอเพียงซะแล้ว คงต้องไปออกกำลังกายมั่ง ฝึกแต่พลังจิตไม่ได้ช่วยให้ชีวิตดีขึ้นเลยนะฮับ แค่เพิ่มความมั่นคงปลอดภัยแก่ชีวิตแค่นั้นแต่แลกกับตัวเองไม่มั่นคงแทน พลังชี่อาจเยอะเกินแล้ว แต่ไหงมาป่วยที่เส้นอีก สรุปจะเอาไงแน่ เพิ่มพลังจิตต่อไปมั้ง น่าจะสุดแล้วนากับฝันโลกใบที่สองอะ ที่เหลือก็รอพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปมาเปิดโลกเปิดจักรวาล

 

ไม่รู้ว่าท้องฟ้าสีขาวขุ่นแบบนี้ เป็นกันทั่วประเทศหรือเปล่า ? มันเกิดจากหน้าฤดูกาลหรือว่าอย่างไร เคยดูยูทูปของโพลชิบบอกว่า ถ้าฟ้าขาวขุ่นแบบนี้เป็นสัญญาณว่าน้ำจะมาก

 

ไม่ใช่กัมพูชาเผาไฟป่าเหรอครับ เป็นประจำทุกปีไปแล้ว พอดีลมก็เป็นใจพัดเข้าประเทศไทย เฟสอ.ดาราแฟร์บอกมาเป็นฝุ่นสร้างขึ้นฝีมือพวกอีลูนี่แหละ

 

ผมคงจะติดกับมารเข้าให้แล้ว ไปตีความคัมภีร์คริสผิดที่ว่าเรื่องโลกใหม่ โลกเก่าอะ เพราะกิเลสมากเลยไปคิดซะโน่นเรื่องโลกใบที่สองบ้านหลังใหม่ไปเลย เพราะผมไปแสดงความกล้าไขปริศนาเรื่องลึกลับในโลกนี้หมดแล้วตั้งแต่ยุคอียิปต์ยันยุคดิจิตอล ด้วยสมองกึ่งบ้ากึ่งอัจฉริยะผู้นี้จะเป็นยังไงคงเกินคาดเดา แต่ที่แน่ๆ เรายังอยู่ในธรรมชาติโลกนี้อยู่ยังไงก็ฝืนสัจธรรมที่พระพุทธเจ้าเคยกล่าวไปไม่ได้ เกิด แก่ เจ็บ ตาย โอ้ละหนอ

 

ช่างเถอะค่ะ เราก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ปัจจุบันนี้....เท่าที่เราเห็นอยู่เราก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว และเราก็ได้รู้สาเหตุของการเกิดขึ้นเพราะอะไร? ความเป็นจริงโลกจะไปทางไหน? ก็คงเป็นเรื่องอจิณไตยที่จะเป็นไป เพียงแต่ว่าตอนนี้เราได้รับรู้อะไรขึ้นมาบ้างดีกว่าไม่รู้อะไรเลย และรับรู้ว่าความจริงจะเป็นอย่างไร? ทั้ง ๆ ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเมื่อไหร่ ? เมื่อไหร่เมื่อเราได้รู้ก็เปรียบเหมือนมีผู้คอยบอกกล่าวเรื่องต่าง ๆ เราก็ดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาท ..... ถ้าไม่เกิดขึ้นจริงก็ไม่เสียหายอะไร สิ่งที่ได้คือการได้ความดีที่จะทำให้ตนเองพ้นภัยได้ หรือถ้าเกิดขึ้นมาจริง ๆ เราก็ได้เตรียมตัวตรียมใจของเราแล้วค่ะ ถ้าพ้นปี 2563 สำหรับตนเองไปก็ไม่มีอะไรต้องหวั่นไหวหรือกลัวสิ่งใดสำหรับภัยธรรมชาติ เพราะ...ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่ท่านบอกโลกนี้เกิด แก่ เจ็บ ตาย ฝืนสัจธรรมไม่ได้

ส่วนเรื่องการให้ข้อมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติ จิตยิ้มว่าข้อมูลพอสมควรแล้ว ที่เหลือก็แล้วแต่จะเป็นไปตามเหตุปัจจัยค่ะ......