Featured เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

อากาศร้อนมาก ดอกเตอร์ส่งบุญบริจาคผ้าอ้อมคนป่วยมาให้ร่วมโมทนาคลายร้อน บุญ-ทานก็เหมือนลมชายทุ่งพัดมาชโลมเย็นกายสบายใจ อยู่ตรงไหนก็มีความสุข

รับทราบการโอนปัจจัยพระพิชิตมาร ส่วนเรื่องสอนหนังสือด้วยวิธีย้อนยุคกลับไปสมัยเราเรียนหนังสือไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือไอทีก็ได้แต่รับฟัง เชิญด็อกเตอร์แก้ไขปัญหาด้วยตัวเองตามสบาย

แต่ก็แนะได้หน่อยนึงว่า เวลาเราเขียนไวท์บอร์ด แล้วพูดฉอดๆไปด้วย จงทำใจคิดซะว่า ข้างหลังเรานั้นเป็นเด็กนักเรียนชั้นป.หรืออนุบาล รับรองการสอนผ่านฉลุย-ฮ่า

 

"ตะกรุดมหาโสฬส"ขนาด3นิ้ว
"เจ้าคุณธงชัย"เสก-กล่องไม้
บารมี"หลวงพ่อหอม"วัดท่าอิฐ!
===============

มหาเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง วัดท่าอิฐ อ.โพธิ์ทอง อ่างทอง บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระศอ หรือบริเวณไหปลาร้าของพระพุทธองค์ สร้างโดย หลวงพ่อหอม ปัญญาพโล "พระครูสุคนธศีลคุณ" อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าอิฐ ในปี 2535-2543

ท่านเป็นศิษย์ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เมื่อครั้งเป็นเณร เป็นรุ่นน้อง "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง" ครั้นร่ำเรียนบ่มวิชาเต็มภูมิ สั่งสมบารมีเติบใหญ่เต็มที่...
-- หลวงพ่อหอม ไปครอง "วัดท่าอิฐ"
--หลวงพ่อฤาษีฯ ไปครอง "วัดท่าซุง"

หลวงพ่อหอม มรณภาพ 10 สิงหาคม 2543 สิริอายุ 81 ปี 4 เดือน 13 วัน พรรษา 59

ปัจจุบัน...สรีระของ หลวงพ่อหอม ปัญญาพโล ไม่เน่าเปื่อย อยู่ในโลงแก้วให้สาธุชนแวะกราบไหว้สักการะ นับถึงวันนี้ก็ 25 ปีเข้าไปแล้ว เช่นเดียวกับ หลวงพ่อฤาษีฯ ที่วัดท่าซุง !

สำหรับพระบรมธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทองนั้น หลวงพ่อหอม มุ่งมั่นสร้างถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ และพระองค์ท่านทรงถวายพระนาม "ศรีโพธิ์ทอง" ให้เพื่อเป็นศรีสง่าแด่อำเภอโพธิ์ทอง เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนาที่สำคัญตราบทุกวันนี้ โดยสร้างแล้วเสร็จในปี 2543 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จทำพิธีเปิดในปีนั้น ซึ่งเป็นปีที่ "หลวงพ่อหอม" ละสังขาร หลังจากทุ่มเทกาย-ใจ สร้างพระเจดีย์ยิ่งใหญ่ตั้งแต่ปี 2535

พระผู้มีคุณแห่งศีลหอมหวนทวนลมแท้จริง "พระครูสุคนธศีลคุณ" หลวงพ่อหอม ปัญญาพโล เป็นหลักใจ หลักชัยของชาวอำเภอโพธิ์ทอง และเป็นผู้ได้รับการบันทึกอย่างมีนัยสำคัญไว้ว่า ฟื้นฟู "วัดท่าอิฐ" วัดโบราณกลับสู่ความเจริญรุ่งเรืองครบทุกด้านตราบทุกวันนี้

เมื่อ "หลวงพ่อหอม "มรณภาพครบ 12 ปี ในปี 2555 ได้มีการสร้างวัตถุมงคลเป็นที่ระลึกแด่พระคุณท่าน

หนึ่งในวัตถุมงคลสำคัญคือ..."ตะกรุดมหาโสฬส รุ่นบารมีหลวงพ่อหอม" กระทำพิธีปลุกเสกโดย "พระธรรมภาวนาวิกรม"(สมณศักดิ์เวลานั้น) ซึ่งเรารู้จักกันดีในนาม "ท่านเจ้าคุณธงชัย"

ตะกรุดพอกผงมหาโสฬส ลงรัก บรรจุกล่องไม้สักอย่างดี แค่กล่องก็สูงค่ายิ่ง ชม "ภาพเล่าเรื่อง" ทุกมุมมอง และเชิญร่วมบุญของดีที่หายาก...

=======1,200=======

หน้ากล่องไม้ ประทับภาพท่านเจ้าคถณธงชัย กับรายละเอียด ให้สังเกตว่ากระทำการเสก...วันเสาร์ ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ รวมความแรงของตระกูล "เลข ๕" อันเปี่ยมอาถรรพ์ร้ายกาจยิ่งสำหรับพิธีปลุกเสกเลขยันต์มหามงคลประจุลงในวัตถุมงคล

เปิดฝากล่องไม้ พบภาพ "หลวงพ่อหอม" นั่งในมหาเจดีย์ด้วยลายเส้นสีทอง ขวามือคือ ตะกรุดมหาโสฬส เจาะช่องกระดาษพอดีกับตัวตะกรุดสวยงาม สูงค่า ดูดี มีสกุล ไม่เหมือนงานทั่วๆไป !!!

ตะกรุดตะกั่วทุบ มีแกนด้านใน พอกผงมหาโสฬสอันเป็นที่สุดแล้ว ก็ถักเชือกพรีอมกับลงรักอย่างดีและปราณีต สามารถศึกษา"รัก" ยุคใหม่อายุสร้าง 13 ปี เปรียบเทียบกับรักรุ่นเก่าเป็นความรู้ก็ยังได้
อีกด้านและอีกมุม

ตะกรุดตะกั่วกับแกนด้านในและ
การพอกผง"มหาโสฬส" งานฝีมือ
ละเอียดละออศิลป์น่าทึ่งอย่างยิ่ง
เห็นชัดว่าเนื้องานสร้างชั้นบรมครู
และการพุทธาภิเษกยิ่งใหญ่ขั้นเทพ

ตะกรุดโทน 3 นิ้วเต็ม ขนาดกำลังพกพา จะร้อยเชือกคาดเอว หรือใส่ปลอกตะกรุดนำติดตัวได้ทุกรูปแบบ ไม่เกะกะ

ให้ดูขนาดของกล่องที่ประดิษฐ์แบบงานฝีมืออีกชิ้น รวมความแล้ว ตะกรุดมหาโสฬส ดอกนี้ งามนอก ยอดเยี่ยมใน ทั้งตัวตะกรุดและภาชนะบรรจุ ไม่นับรวมการสร้าง-เสกยิ่งใหญ่สุดในปีนั้น...!

 

.
รอยพระพุทธบาท สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระอุเบกขาบารมี ๑
พระเมตตาบารมี ๑
พระเนกขัมมบารมี ๑
พระปัญญาบารมี ๑
พระสัจจะบารมี ๑
พระศีลบารมี ๑
พระปรมัตถบารมี ๑
พระอุปบารมี ๑
พระอธิษฐานบารมี ๑
พระทานบารมี ๑
พระขันติบารมี ๑
พระวิริยบารมี ๑
เขียนไว้ให้ เป็นเครื่องบูชา เพื่อน้อมระฤก
ถึงความเพียร ของพระบาท ของพระพุทธเจ้า
จาริกด้วยพระบาท โปรดสัตว์ให้พ้นจากทุกข์

พระสังวรวิมลเถร

(หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี)

 

วันพระแรกเดือนเมษายน น้องคัมภีร์เปลี่ยนยูสเซอร์เข้ากับกาลสมัย ประเทศไทยเจอเรื่องวิบัติซัดบรรลัยหลายเรื่องแล้ว อย่าให้ "คาสิโน" มาซ้ำเติมเพราะมีกาลีบ้าน กาลกิณีเมือง...!

วันพระนี้ "หลวงปู่" ว่าด้วย
รอยพระบาทพระพุทธองค์
ทรงคุณอนันต์สุดพรรณนา...

**พึงพินิจ....พิศอัตลักษณ์
สัญญลักษณ์..พิทักษ์ศาสน์
ปราชญ์รจนา...ศาสดาศาสตร์
บารมีบาท..........ผงาดเงื้อ
--ใต้รอยวาด...บาทพุทธา
--คือคุณค่า.....ราชันย์เชื้อ
--เหนือมนุษย์..รุดก่อเกื้อ
--ธรรมาเผื่อ....เพื่อพ้นภัย
น้อมระฤก......ตรึกตามติด
พลีชีวิต........จิตจ่อใจ
ไป่ทุกชาติ...ผิว์คลาดไกล
กี่อสงไขย..ขอใต้บาท..พุทธองค์!

หมายเหตุ...ผิว์= หากว่า,แม้นว่า

 

หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
เหรียญเล็ก-วัดวังน้ำขาว-ปี17
===============

บารมี "เทพเจ้าดอนยายหอม" หลวงพ่อเงิน เป็นที่พึ่งพาของหลายวัดในวันที่หลวงพ่อทรงสังขาร มีวัดในความอุปการะเช่น วัดไผ่รื่นรมย์,วัดทุ่งน้อย ฯ

วัดวังน้ำขาว ก็อยู่ในความอุปถัมภ์ของหลวงพ่อ สร้างวัตถุมงคลเพื่อนำรายได้ทำนุบำรุงวัด โดย "เทพเจ้าดอนยายหอม" เมตตานั่งหนักเป็นประธานปลุกเสกให้ตลอด

เหรียญกึ่งจอบเล็ก กึ่งเสมารุ่นปี2517 จัดว่ารูปทรงน่ารัก อายุสร้างกว่า 50 ปีแล้ว มอบร่วมบุญบารมีหลวงพ่อเงิน...

=======400=======

นอกวัด แต่ใต้บารมี "หลวงพ่อเงิน" เต็มปรี่ เหรียญดี ปีลึก อริยสงฆ์ระดับเทพองค์แท้ แน่วแน่ พุทธคุณ ธัมคุณ สังฆคุณดุจเดียวกับเหรียญราคาแพงๆที่ยากจับต้องและของทำเทียมเลียนแบบมาก

พึ่งพาของดีนอกวัด ไม่หนักใจกับของมือผี ใช้ดีจึงบอกต่อ...

เห็นยันต์นี้ ก็เหมือนเห็นตัวท่าน กำกับด้านล่างด้วยพระคาถาหัวใจพุทธคุณ ๙ "นวหนรคุณ" พุทธคุณครอบจักรวาล "อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ"

เหรียญเล็ก-พุทธคุณโอฬาร รุ่นนี้
สร้างไม่มากไม่ค่อยได้พบเห็นนัก

 

วันที่ ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๕ ปีมะเส็ง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

สวัสดีครับอาจารย์วันวิ พี่น้องทุกท่าน
อนุโมทนาบุญกับอาจารย์วันวิ พี่น้องทุกท่าน
ขอให้ทุกท่าน ร่ำรวย สุขภาพดี มีความสุข ไรก็ทุกข์ภัย รวยๆๆ เฮงๆๆ ทุกท่าน สาธุ

 

อยู่ช่วงหยุดชดเชย "วันจักรั" แต่ทุกวันก็ดีสำหรับใส่บาตรทำบุญและร่วมอนุโมทนา

 

วันหยุดก็จริง แต่กำลังใจจากน้องน้อตส่งตรงไม่เคยหยุด ฝากให้สมาชิกทุกคนด้วย เพื่อความสุขอย่างทั่วถึงในยามที่บ้านเมืองไม่ปกติสุขอย่างแรง โดยเฉพาะการโดนยักษ์ใหญ่อย่างอเมริกาขึ้นภาษีอ่วมอรทัยที่สุด ถ้วนหน้าทั่วโลก!!!

พูดเฉพาะในย่านอาเชี่ยน เหล่าผู้นำแต่ละประเทศขมีขมัน ดิ้นรนต่อสู้ทำเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชนของตนเอง

--เวียดนาม ผู้นำต่อสายตรงหารือ "ทรัมป์" หาวิธีผ่อนปรนและแก้ไข
--สิงคโปร์ มาเลย์ อินโด บรูไน ชาตืในอาเชี่ยน ร่วมมือกันเตรียมตัวไปเจรจากับอเมริกาหาหนทางแก้
--โทษทีครับ ไม่มีชื่อ "ประเทศไทย" ในทุกสถานการณ์!!!

มีคนพูดให้ได้ยินแสยงรูหูว่า บางคนนั้นแก้ไขปัญหาไม่เป็น บริหารไม่ได้ ไร้ความรู้เหมือนหลุดมาจากรูไม้ไผ่ ไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่างเดียว นอกจากเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมไปวันๆ...

*** รู้อย่างเดียวคือวิธีทำให้ประเทศบรรลัย ( ไม่เชื่อรอดูการผลักดันคาสิโน อย่างดื้อด้านตาใสในสัปดาห์นี้อีกทีก็ได้) ***

 

"หลวงพ่อทวี วัดโรงช้าง"
ท่ามะปรางค์เนื้อดิน 2499
===============

หลวงพ่อทวี ถือเป็นยอดเกจิ เมืองชาละวัน พิจิตร ถัดมาจากรุ่น หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง,พ่อเขียน วัดสำนักขุนเณร.หลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ ฯลฯ

ท่านอยู่รุ่นใกล้เคียงกับ หลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง,หลวงพ่อขวัญ วัดบ้านไร่ ฯลฯ มีชื่อเสียงในระนาบเดียวกัน มักปลุกเสกวัตถุมงคลร่วมกันบ่อยครั้ง

หลวงพ่อทวีสร้างวัตถุมงคลดีเด่น เด็ดดวงไว้หลายรุ่น พระเนื้อดินที่โด่งดังติดทำเนียบสร้างตั้งแต่ปี 2499 คือการนำดินกรุต่างๆมาผสมเป็นมวลสารแล้วสร้าง "พระท่ามะปราง" ย้อนยุคได้สวยงาม น่าใช้บูชาน่าสะสมเพราะราคายังไม่แพงมาก พอจะหาได้ในท้องตลาดด้วยหลักร้อย

จัดมาให้ร่วมบุญด้วยราคาไม่แตกต่าง...

=======500=======

พระสวยสะอาด เรียบร้อยมาก ไม่เคยผ่านการใช้ ดินเก่าทำปฏิกิริยากับแม่เหล็กเล็กน้อย พอให้รู้ซึ้ง ถึงคุณค่าของเนื้อหา

ด้านล่างบัวเล็บช้างซ้ายมือ กดเบี้ยวจากในพิมพ์ มิใช่การชำรุดใดๆ

ด้านหลังท่ามะปรางทุกองค์ หลวงพ่อทวี ปั้มคำว่า "พุทธ/ธรรม/สงฆ์" ไว้อย่างใดอย่างหนึ่ง

องค์นี้คำว่าอะไร ให้ลองทายดู แต่ถ้าขี้เกียจเดา ก็ดูด้านล่าง

"ธรรม" คือคำที่ถูกเลือกสรรประทับด้านหลังองค์นี้

ความงามขอบข้าง

ขนาดเท่า"เงี้ยวทิ้งปืน"ต้นตำรับ
พระกรุพิษณุโลก-กำแพงเพชร!

 

วันที่ ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๕ ปีมะเส็ง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

ใกล้สงกรานต์ อากาศยิ่งทวีความร้อน แต่บุญใส่บาตรยามเช้ากับการได้ร่วมอนุโมทนาก็พอปัดเป่าความร้อนกายไปได้บ้าง เพราะได้ความเย็นใจเข้ามาช่วย

 

นางกลีบบัวกำแพง
กรุพิกุล"ทุ่งเศรษฐี"
=============

ในกระบวนสุดยอดพระเนื้อดินกำแพงที่พบมากที่สุดแทบทุกกรุคือ"นางกำแพงพิมพ์ตื้น-ลึก"...!

และอีกแบบที่พบมากสูสีกัน(เกือบ)ทุกกรุที่มีพระขึ้นมา ได้แก่...นางกำแพงพิมพ์กลีบบัว!!!

แต่โทษที จะพบมากพบน้อย วันนี้ "พระกำแพง" ทุกพิมพ์ ล้วนเป็นสิ่งที่ "หาพบยาก" เหลือเกินในท้องตลาดหรือการเปลี่ยนมือ คำว่า "มีกูไม่จน" กับสรรพคุณวิเศษจากอดีตเกินกว่า 600 ปีอันเป็นที่รับรู้ตราบปัจจุบัน เป็นสิ่งที่ทำให้พระกรุสุดยอดนี้ หายวับไปจากท้องตลาด มีเปลี่ยนมือก็ไม่สวย องค์ที่สวยงาม พิมพ์นิยมก็ว่าราคากันทีหูตาเหลือก

เป็นพระจำพวก คนขายไม่ง้อคนซื้อ ซึ่งมีไม่กี่ประเภทในโลกพุทธพาณิชย์

ต้อนรับสงกรานต์ที่ใกล้มาเยือน รดน้ำดำหัวใจให้ชุ่มฉ่ำกับ "พระกำแพงกลีบบัว" กรุหนองพิกุล หรือเรียกสั้นจำง่ายทุกวันนี้ว่า "กรุพิกุล" ฝั่งทุ่งเศรษฐี พระราคาหลักหมื่น-แสน มอบหลักพันเพราะชำรุดซ่อมมาตั้งแต่เมื่อ 50 ปีที่แล้ว แต่เป็นการซ่อมด้วย "เนื้อเดิม"พระกำแพง ไม่ได้เติมดินหม้อใหม่ลงไป...

=======7,000=======
พิมพ์กลีบบัวเต็มทรง พิมพ์นี้จะละม้ายคล้าย "เม็ดมะลื่น" ที่ขึ้นจากกรุน้อยกว่า และแพงกว่า มักมีคนแปลงให้ท่านเป็นเม็ดมะลื่น บางทีในงานประกวดกรรมการตัดสินพิมพ์กลีบบัวให้ได้รางวัลแทนเม็ดมะลื่นก็มีบ่อย และทะเลาะทุ่มเถียงกันในเรื่องพิมพ์หน้าดำหน้าแดง ผมเคยเจอในงานประกวดหลายสิบปีก่อน

แต่เราพูดกันด้วยหลักความจริง เรื่อง "พิมพ์" คือ "สิ่ง
สมมุติ" ความจริงแท้ก็คือ "พระกำแพง" จะพิมพ์ไหน-กรุใด? ขอให้แท้เถอะจะหลักร้อย-พัน-หมื่น-แสน หรือล้านและหลายล้าน ไม่มีข้อแตกต่างในเรื่อง "พุทธคุณ" ซึ่งผู้สร้างคือพระมหากษัตริย์ บุคคลยิ่งใหญ่ต่างๆของเมืองแต่ละสมัย

และผู้เสกคือปวงองค์ฤาษีเรืองฤทธิ์ทั้งคณะ ย่อมไม่เสกให้องค์ใดองค์หนึ่งด้อยค่ากว่ากัน เพราะเป็นการสร้างบรรจุกรุ ผนึกพลังพุทธคุณเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ไม่มีคำว่า "ซื้อ-ขาย" ไร้คำว่าพุทธพาณิชย์ในห้วงหลายร้อยปีที่แล้ว

เมื่อราคาคือสิ่งสมมุติ มันจึงไม่มีความหมายสำหรับ "พิมพ์" จะเป็นพิมพ์อะไรใช้บูชาได้ทัดเทียมกันหมด!

องค์นี้เนื้อด้านหน้าส่วนบนขวามือเรา หลุดเป็นหลุมเล็กๆ แต่ซ่อมดีแล้วหลายสิบปี เนื้อกลมกลืนเป็นสีเดียวกันไม่เพี้ยน และแกร่ง หนึกนุ่มสมเป็นพระกำแพงเหมือนเนื้อเดิมๆ

หลังอูม บางองค์ก็หลังแบนแล้วแต่การกดคลึงลงพิมพ์ บ้างก็มีรอยแงะพระออกจากพิมพ์เล็กๆด้านล่างอย่างองค์นี้ หรือไม่มีก็ได้

ท่านทำปฏิกิริยากับแม่เหล็กสมัยใหม่เป็นปกติ แต่ทำอย่างแผ่วเบาพอให้รู้ว่าผสมว่านสำคัญและเนื้อดินมีแร่ธาตุเหล็กเจือจาง

ข้างจีบเป็นกลีบบัว
สมชื่อพิมพ์โบราณ
สวยซึ้งถึงยุคสมัย!

ขนาดกำลังดีเหมาะขึ้นคอบูชา
ใช้ได้ทั้งหญิง-ชาย "มีกูไม่จน"

เทียบกับหนังสือพระกำแพง และด้านล่างจากพิพิธภัณฑ์เมืองกำแพงของกรมศิลป์ ซึ่งเป็นองค์สวยสมบูรณ์สุดขีดหน้าตาติดชัด สมแล้วทึ่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาและชื่นชม...!

 

"สมเด็จจัมโบ้ขาโต๊ะ"-ปี12
วัดราชนัดดาฝังพลอยเสก
ลป.โต๊ะ-ลพ.กวย ร่วมเสก!
===============

เป็นพระชุดที่สร้างอลังการเกรียงไกร ยิ่งใหญ่ด้วยนื้อหา มวลสาร พิธีกรรม รวมคณาจารย์สุดยอดของประเทศห้วงเวลานั้น เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกลือลั่นสนั่นกรุงมาตราบเท่าทุกวันนี้

หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี,หลวงพ่อกวย วัดบ้านแค,หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง,หลวงปู่เส่ง วัดกัลยาฯและอีกหลายสิบรูป นึกนามท่านใดออกมา ก็ล้วนอยู่ในงานพิธีนี้แน่นอน

พระมหาโกเมศ วัดราชนัดดา ซึ่งเป็นศิษย์หลวงพ่อกวยจัดสร้าง และหลังพิธีแล้ว"หลวงพ่อกวย" ยังเมตตาเสกเดี่ยวให้เต็มที่ ทั้งนำกลับไปแจกให้ลูกศิษย์บูชาที่วัด

ส่วนหนึ่งท่านก็ถอดพิมพ์สร้างแจกเพิ่มเติม พระชุดวัดราชนัดดาปี 12-15 จึงเป็นหนึ่งชุดที่สายหลวงพ่อกวยถือว่าเป็นพระของหลวงพ่อได้เต็มปากเต็มคำ เป็นพระนอกวัดมีคุณค่ามาก

สำหรับพิมพ์ขาโต๊ะจัมโบ้ฝังพลอยเสกเม็ดเบ้อเร่อนี้ ทำเพื่อแจกกรรมการไม่กี่องค์ ต่อมาท่านมหาโกเมศก็ได้สร้างพิมพ์โรยพลอยทั่วทั้งองค์ แต่ใช้พลอยที่แตกหักและย่อขนาดสมเด็จลงมาไม่ให้เปลืองเนื้อหาผงวิเศษกับเนื้อพลอย

แน่นอน...พิมพ์โรยพลอยขาโต๊ะ ก็เป็นอีกหนึ่งพิมพ์ในชุดนอกวัดของหลวงพ่อกวยเช่นกัน

จัด "พิมพ์จัมโบ้-ขาโต๊ะ" พิเศษสุดเนื้อหาผงวิเศษเยี่ยมยอด+พลอยเสกเม็ดโต สภาพงามที่สุดเท่าที่เคยเห็นมอบร่วมบุญเป็นกำไร เป็นของขวัญก่อนสงกรานต์...

=======1,500=======

ไม่ผ่านการใช้ให้มีราคี เปิดกรุที่เก็บไว้เกิน 40 ปีออกมามอบให้ ดูเนื้อหาผงวิเศษที่คราบแป้งโรยพิมพ์ปะทุออกมาคลุมตามพื้นผิวและตามซอก แสดงถึงความพิเศษของมวลสารที่ใช้สร้างพระรุ่นนี้ว่าดีเด็ดถึงพริกถึงขิง เผลอๆเป็นผงวิเศษครบ 5 หมู่..เอ้ย 5 ประการ !

ที่แน่ๆผสมผงสมเด็จวัดระฆังและบางขุนพรหม ไม่ต้องสงสัย !!!

พลอยสีเลือดนกที่ฐานชั้นแรก 2 เม็ดเบ้ง และเศษเล็กๆฝังตามผิวเนื้ออีกมากไม่ได้โรยลงไปเหมือนรุ่นต่อมา

ด้านหลังมีอีกเม็ดค่อนข้างชัด ส่วนเม็ดผงพุทธคุณก็ลอยฟ่องในเนื้อหาเห็นตาเปล่าทั่วองค์ ความเก่าและหนึกนุ่ม แต่แกร่งของเนื้อ บ่งบอกอายุสร้าง น้ำหนักที่หน่วงมือ ยืนยัน "เนื้อผงพุทธคุณ" เต็มองค์!!!

ปากกาวงที่เม็ดพลอยขนาดเบ้ง กับวงที่ขาโต๊ะ ซึ่งเป็นแบบฉบับของปี 15 และของ หลวงพ่อกวยรุ่นต่อมา ใช้พิมพ์ขาโต๊ะแบบเดียวกันนี้ทั้งสิ้น (มีภาพเปรียบเทียบให้ชม)

นี่ครับสมเด็จโรยพลอย
รุ่นปี15 ให้ดูการแกะพิมพ์
ตรงขาโต๊ะเป็นเอกลักษณ์
เหมือนกันหมด-ลองขยาย
ภาพใหญ่ชมได้-ขอบคุณ
ภาพสมเด็จจากเว็ปประมูล
ต่างๆที่ยืมมาเป็นนายแบบ

ด้านข้างที่สมบูรณ์ และ
จัมโบ้เกือบเท่าพญานาค
แถมวงเม็ดพลอยอีกภาพ

 

วันที่ ๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันพุธ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๕ ปีมะเส็ง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

พุธกลางสัปดาห์ มีข่าวดีอยู่บ้าง จากการถอยกรูดของรัฐบาลไม่กล้าดันทุรังผลักดันกม.กาสิโนเข้าสภาฯในวันพรุ่งนี้ เพราะ แรงต้านหนักหน่วงมาจากทุกสารทิศ...!

อย่างน้อยความวิบัติบัดซบและบรรลัย ที่จะถาโถมเข้ามาก็พอคลี่คลายไปบ้าง เคราะห์ซ้ำกรรมยังไม่ซัดหนัก ปัญหาอื่นๆพอแก้ไขได้ แต่ปัญหา "ไฟไหม้บ้าน" ล้มละลายเพราะการพนัน เกิดขึ้นแล้ว ชิ...หายวายตลิ่งอย่างเดียว หมดโอกาสแก้ตัว

พอสบายใจบ้าง ก็แวะอนุโมทนาบุญยามเช้า ส่งแด่พระสยามเทวาธิราช อำนาจบุญทั้งปวง จงเพิ่มพลังองค์พระสยามเทวาผู้ยิ่งใหญ่ เพิ่มพูนบารมีรัศมีกาย รัศมีเทพแก่กล้าไร้เทียมทานยิ่งๆขึ้น สามารถปราบภัยพิบัติและคนอัปรีย์จานไรของแผ่นดินให้เรียบวุธ อย่าปล่อยมันทำร้ายแผ่นดินยาวนานกว่านี้

 

"หลวงพ่อโต๊ะ วัดสระเกษ"13
"หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฯ"-เสก
===============

2 "หลวงปู่โต๊ะ" ผู้ยิ่งใหญ่และเป็นสหายธรรม ร่วมกันปลุกเสก เหรียญ "รับเสด็จ-วัดสระเกษ" จ.อ่างทอง ในปี 2513

หนึ่งนั้นคือ...หลวงพ่อโต๊ะ สุวัณโณ เจ้าอาวาสวัดสระเกษ อ่างทอง ผู้ครอบครองพระสมเด็จวัดไชโย หรือชิ้นส่วนแตกหักของพระสมเด็จเกษไชโยคราวกรุแตกล่าสุดไว้มาก และท่านได้สร้างพระสมด็จ ๙ ชั้น 2 แบบ มอบให้ "หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฯ" นำไปแจกเหล่าศิษย์เมืองกรุง ซึ่งระยะแรกไม่มีใครทราบว่า "หลวงปู่โต๊ะ" นำพระชุดนี้มาจากไหน?

ความมากระจ่างเมื่อทราบว่า ท่านสนิทสนมกับ "หลวงพ่อโต๊ะ วัดสระเกษ" ร่วมพิธีพุทธาภิเษกด้วยกันบ่อยครั้ง ถือว่า "หลวงปู่โต๊ะ" เมืองกรุง เป็นสหธรรมิกรุ่นพี่ของเกจิเมืองอ่าง

นี่เป็น "เหรียญรับเสด็จ" เมืองอ่างทอง ตัวจริง เสียงจริงในปี 2513 ซึ่งทรงเสด็จพระราชดำเนินในปีนั้น พิธียิ่งใหญ่และ "หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฯ" คือภิกษุรูปสำคัญในพิธีหลวง

"เหรียญรับเสด็จ"... 2 "หลวงปู่โต๊ะ"ร่วมเสกกับเหล่าคณาจารย์ชื่อก้องเมืองอ่างทองยุคนั้น สร้างไม่มาก หาไม่ง่ายแต่ราคาไม่แพงมาก มอบร่วมบุญราคาพิเศษ...

=======1,200=======

เหรียญทองแดงผิวไฟ ข้างเม็ดไม่ผ่านการใช้ สภาพงามเกือบเต็มร้อย ไร้ริ้วรอยรบกวน แม้ที่จมูกอันเป็นจุดอ่อนสุด ก็ยังงาม

ผ่านมา 55 ปี ผิวไฟซีดแห้งสนิทหมดไฟ เหลือแต่ผิวทองแดงเก่า ยิ่งเก่ายิ่งงาม ยิ่งคลาสสิคเหลือใจ

ยันต์ห้ากับรายละเอียดด้านหลัง
เหรียญบางเรียบเฉียบขาด สไตล์เหรียญโบราณ ยิ่งบางยิ่งปลอมยาก และยิ่งมากคุณค่า

รูปไข่มาตรฐาน พิธีอัครฐาน...
ผ่านพลังครูผู้ยิ่งใหญ่ครบด้าน

 

วันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๕ ปีมะเส็ง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

รับครับ

 

รับครับ