เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๘

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 13 สิงหาคม 2025 at 20:56.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    22,740
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,836
    ค่าพลัง:
    +26,693
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๘


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    22,740
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,836
    ค่าพลัง:
    +26,693
    วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๑๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ หลังจากเจริญพระกรรมฐานและทำวัตรเช้าแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้ขอสัตตาหะกรณียะในท่ามกลางสงฆ์ เพื่อจะได้เดินทางไปทำหน้าที่คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ระดับหน ของคณะสงฆ์หนกลาง

    โดยที่เดินทางไปยังวัดตาลเอน หมู่ที่ ๑ ตำบลตาลเอน อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นตัวแทนของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในการรับการตรวจประเมินเพื่อยกขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ ไปถึงก็เจอคณะศิษย์ของท่านพระครูวิสุทธิ์ภาวนาประสิทธิ์ วิ. รองเจ้าคณะอำเภอบางปะหัน เจ้าอาวาสวัดตาลเอน มาต้อนรับ

    ท่านพระครูวิสุทธิ์ภาวนาประสิทธิ์ วิ. เป็นลูกศิษย์ของพระเดชพระคุณพระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม) หรือหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี สามารถนำเอาปฏิปทาของครูบาอาจารย์มาสืบต่อได้อย่างมั่นคง ทำให้วัดตาลเอนนี้มีพระภิกษุสามเณรจำพรรษาเพื่อปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมาก และมีญาติโยมผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาปฏิบัติธรรม เฉลี่ยแล้วปีละเป็นหมื่นราย..!

    กระผม/อาตมภาพเห็นแล้วก็ยังทึ่งว่า ในเรื่องของวัดวาอารามนั้น ถ้าหากว่าเน้นในเรื่องการปฏิบัติธรรมแล้ว อาศัยเรื่องอื่นเป็นแค่ส่วนควบ ก็จะสามารถสร้างความเจริญให้กับพระพุทธศาสนาได้เป็นอย่างมาก เพียงแต่ว่าการบริหารจัดการวัดให้ดีนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วก็มักจะมีความสามารถด้านเดียว ก็คือถ้าถนัดทางวิปัสสนาธุระ ก็จะไม่ชำนาญด้านคันถธุระ ผู้ที่ถนัดด้านคันถธุระ น้อยรายที่จะชำนาญในด้านวิปัสสนาธุระ เป็นต้น

    ในการตรวจประเมินเพื่อยกบ้านตาลเอนขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบนนั้น พวกเราเริ่มกันตามธรรมเนียมปกติ ก็คือเข้าไปก็ไปกราบสักการะพระประธานในอุโบสถ ทำการเจริญพระพุทธมนต์ถวาย จากนั้นก็เดินไปดูการปฏิบัติธรรมของญาติโยม ซึ่งมีทั้งนักเรียน ตลอดจนกระทั่งผู้สูงอายุ เรียกง่าย ๆ ว่ามีทุกระดับอายุนั่นเอง แล้วถึงได้มาเดินดูนิทรรศการต่าง ๆ เกี่ยวกับหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ซึ่งในด้านนิทรรศการเกี่ยวกับศีล ๕ นั้น ได้รับการอธิบายจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรบ้านขล้อ
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    22,740
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,836
    ค่าพลัง:
    +26,693
    คำว่า บ้านขล้อ นี้ กระผม/อาตมภาพมั่นใจเลยว่าเขียนผิดและอ่านผิดมาตั้งแต่ต้น เนื่องเพราะว่าใช้ "ขล้อ" ซึ่งถ้าหากว่าเป็นภาษาโบราณก็น่าจะถูก แต่ต้องอ่านว่า ขะ-ล้อ หรือ ขอ-ล้อ เป็นต้น

    เนื่องเพราะว่าคำว่า ขะล้อ หรือ ขอล้อ ก็คือเกราะ เป็นเกราะไม้ที่ใช้ตีส่งสัญญาณ ให้คนในหมู่บ้านได้รับรู้ว่า มีเหตุด่วนเหตุร้ายเกิดขึ้นบ้าง เรียกประชุมชาวบ้านบ้าง เหล่านี้เป็นต้น แม้กระทั่งทุกวันนี้ หลายแห่งก็ยังเรียกเกราะ หรือว่ากระดึงแขวนคอวัวคอความว่าขอล้ออยู่เลย เพียงแต่ว่าคนรุ่นหลัง ๆ ไม่เข้าใจภาษาเหล่านี้ ก็เลยอ่านกล้ำเป็นบ้านขล้อ ทำให้หาที่มาที่ไปไม่ได้

    แม้กระทั่งบ้านตาลเอน ซึ่งต้นตาลที่ขึ้นแล้วมีการเอนบ้างในลักษณะผิดธรรมชาติ อาจจะเป็นเพราะว่าต้องหนีจากเงาไม้ใหญ่อื่น เพื่อไปหาแสงแดดก็ดี หรือว่าเอนลงไปเพราะแรงลม แรงพายุ แล้วไม่สามารถที่จะกลับคืนตรงมาตามเดิมก็ตาม ก็ยังทำให้เป็นที่ถกเถียงกันว่า บ้านตาลเอนนี้อาจจะเกิดจากต้นตาลที่อยู่ริมน้ำ เมื่อชายตลิ่งพังลง ก็เลยทำให้ต้นตาลเอนล้ม คนผ่านไปผ่านมาจึงได้เรียกว่าบ้านตาลเอน เหล่านี้เป็นต้น

    ในเรื่องของชื่อบ้านนามเมือง ถ้าหากว่าขาดความชัดเจนมาตั้งแต่ต้น ก็จะทำให้กลายเป็นที่ถกเถียงของรุ่นหลัง ๆ สืบมา แล้วถ้ารุ่นหลังไม่มีความเข้าใจในภาษาของคนรุ่นก่อน หรือไม่เข้าใจเกี่ยวกับบริบทของสถานที่รุ่นก่อน ก็จะทำให้เข้าใจผิดกับไปเรื่อย แบบเดียวกับบ้านกระดีแดง (กุฎีแดง) ที่บอกว่ามาจากปลากระดี่สีแดง ซึ่งผิดไปคนละโยชน์ อย่างที่โบราณเขาว่าเอาไว้..!

    ด้วยความที่วัดตาลเอนแห่งนี้มีผู้มาปฏิบัติธรรมมาก จึงมีผู้ร่วมบริจาคทำบุญมาก ทำให้การสร้างอาคารแต่ละอย่างนั้น เป็นหลักเป็นฐานดีมาก อาคารตรวจประเมินแห่งนี้ มีการติดเครื่องปรับอากาศที่เย็นสุด ๆ และเป่าลงหัวของกระผม/อาตมภาพพอดี..! ต้องทนนั่งรับความเย็นอยู่หลายชั่วโมง กว่าที่การตรวจประเมินของทุกฝ่ายจะเสร็จสิ้นลง ทำเอากระผม/อาตมภาพไข้จับ กลายเป็นคนขี้อิจฉา เพราะว่าหัวหูหน้าตาร้อนไปหมด ถ้าอย่างอื่นร้อนก็ไม่เท่าไร แต่ถ้า "ตาร้อน" นี่รู้สึกว่าจะไม่ค่อยดี ไม่ทราบเหมือนกันว่าไปอิจฉาใครเข้า ?
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    22,740
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,836
    ค่าพลัง:
    +26,693
    เมื่อถึงเวลาออกมาด้านนอก ปกติแล้วรถยนต์ที่จอดอยู่กลางแดดก็จะร้อนเหมือนกับเตาอบ แต่ด้วยความที่รับความเย็นมาหลายชั่วโมง เมื่อเข้ามานั่งในรถที่ร้อนเหมือนเตาอบ กลับกลายเป็นเรื่องดี แต่ว่าเมื่อร้อนเย็นหักล้างกัน จึงทำเอาน้ำมูกเริ่มไหลแล้ว จนต้องรีบบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเอาไว้ ก่อนที่จะไม่สามารถบันทึกต่อไปได้ เพราะร่างกายหมดสภาพ..!

    ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า
    การเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นเป็นธรรมดาของร่างกาย เพียงแต่ว่าบางอย่าง บางวาระ แม้ว่าจะระมัดระวังป้องกันขนาดไหนก็ตาม แรงกรรมก็จะบันดาลให้เป็นไปจนได้ อย่างเช่นว่าวันนี้ต้องมานั่งตรงอยู่กับเครื่องปรับอากาศ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้น สถานที่ซึ่งกระผม/อาตมภาพนั่งอยู่ มีต้นเสาบังอยู่พอดี แต่พอไปฉันเพล กลับมาอีกที เจ้าหน้าที่เขามาจัดที่นั่งใหม่ ให้มานั่งอยู่ใต้เครื่องปรับอากาศ ที่เป่าลงศีรษะพอดิบพอดี ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า เวรกรรมมาตามทันอะไรกันตอนนี้ ?!

    อีกส่วนหนึ่งก็คือพระภิกษุและแม่ชีของวัดตาลเอนส่วนหนึ่ง เป็น FC ของวัดท่าขนุน มารายงานตัวว่า ฟังเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนทุกวันบ้าง ไปรับยันต์เกราะเพชรที่วัดท่าขนุนมาบ้าง ทำเอากระผม/อาตมภาพ "หัวเราะไม่ได้ ร่ำไห้ไม่ออก" ประมาณว่าอยู่ที่วัดนี้ แต่กลายเป็นแฟนตัวยงของวัดท่าขนุน ไม่ทราบเหมือนกันว่าหลวงพ่อเจ้าอาวาสรู้เข้าแล้วจะทำหน้าอย่างไร ? แต่ว่าท่านทั้งหลายก็มีจิตศรัทธา รวบรวมปัจจัยทำบุญมา ขออนุโมทนากับทุกท่านมา ณ ที่นี้

    ในระหว่างที่เดินทางกลับนั้น ก็มีการรับข้อมูลในกลุ่มไลน์ เกี่ยวกับการประชุมวาระพิเศษของทางมหาเถรสมาคม ที่ยังคงมติเอาไว้ว่าให้ตำรวจสามารถเข้าไปขอข้อมูลจากพระภิกษุ ตลอดจนกระทั่งเจ้าอาวาส พระสังฆาธิการต่าง ๆ ได้เหมือนเดิม เพียงแต่ว่าให้ประสานงานกับเจ้าคณะจังหวัด ตลอดจนกระทั่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเสียก่อน..!
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    22,740
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,836
    ค่าพลัง:
    +26,693
    กระผม/อาตมภาพเองก็ได้แต่ถอนใจ อาจจะมีบางคนที่ไป "รับงานมา" แล้วไม่อยากที่จะให้เรื่องนี้สงบลง เพราะว่าสถาบันศาสนานั้นต้องบอกว่าเป็น ๑ ใน ๓ สถาบันหลักของประเทศไทย ถ้าหากว่าโดนโค่นล้มลงเมื่อไร สถาบันชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ก็จะไม่เหลืออะไรเลย..! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ บุคคลที่ไม่หวังดี ก็อาจจะอาศัยโอกาสนี้ ในการที่ทำให้ศาสนาของเราอ่อนแอและคลอนแคลนมากที่สุด

    ซ้ำในวันนี้ คณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณ ก็ยังมีข้อเสนอพิเศษเข้ามาว่า "ให้บรรดาพระที่มีสมณศักดิ์ ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินและส่งให้ตรวจสอบทุก ๓ ปี" กระผม/อาตมภาพกับเพื่อนฝูงก็ได้แต่มองหน้ากันว่า ไอ้คนประเภทโง่แล้วขยันในบ้านเมืองเรา ทำไมถึงได้มีมากขนาดนี้ ?! ถ้าหากว่าเรารบแพ้เขมร เพราะว่ามีพวกโง่แล้วขยันมาก ๆ แบบนี้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ..! อะไรที่สมควรทำกลับไม่ทำ อะไรที่ไม่สมควรทำ กลับทำไปเสียหมด..!

    เนื่องเพราะว่าพระภิกษุสามเณรของเราไม่ได้รับงบประมาณแผ่นดินมา แล้วทำไมถึงต้องไปแสดงบัญชีทรัพย์สินด้วย ? หรือว่าถ้าท่านทั้งหลายคิดที่จะ "ล้วงย่ามพระ" อย่างที่หลายต่อหลายคนวิเคราะห์เอาไว้ เพราะว่ารัฐบาลอยู่ในสถานภาพถังแตก ไม่สามารถที่จะบริหารให้เกิดงบประมาณขึ้นมาได้ ก็เลยอยากจะ "ล้วงย่ามพระ" เพื่อเอามาใช้จ่ายก็ตาม

    เรื่องแบบนี้ถ้าต้องการจริง ๆ ขอกันตรง ๆ ไม่ง่ายกว่าหรือ ? มาทำอยู่ในลักษณะ "อีแอบ" แบบนี้ ต้องบอกว่าขาดความเป็นลูกผู้ชายไปมาก แต่ยุคนี้สมัยนี้ ถ้าไปบอกว่าท่านเป็นลูกผู้ชาย แล้วเกิดไม่ใช่ลูกผู้ชายที่แท้จริง ท่านอาจจะออกอาการงอนแล้วค้อนควั่บอีกต่างหาก..! ทำให้กระผม/อาตมภาพได้แต่นั่งเซ็งอยู่ในอารมณ์ ว่าทำไมชีวิตปัจจุบันถึงอยู่ได้ยากขนาดนี้ ?

    แต่ก็ดีตรงที่ว่า
    เป็นการตอกย้ำให้เห็นความทุกข์ในโลกนี้ ว่าสารพัดเรื่องที่บีบคั้นเข้ามา ทำให้ความที่อยากจะเกิดมาอยู่ในโลกนี้ หรือความที่อยากจะอยู่ต่อในโลกนี้ให้นานอีกหน่อยนั้น พลอยหายไปหมดจากจิตจากใจของตนเอง ก็ต้องขอบพระคุณและเจริญพรขอบคุณทุกท่าน ที่ช่วยกันทำให้นิพพิทาญาณเจริญมั่นคงยิ่งขึ้นไปอีก

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพุธที่ ๑๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...