เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๓ มกราคม ๒๕๖๘

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 3 มกราคม 2025.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,132
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,595
    ค่าพลัง:
    +26,441
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๓ มกราคม ๒๕๖๘


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,132
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,595
    ค่าพลัง:
    +26,441
    วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ อากาศทางทองผาภูมิยังหนาวลงไปได้อีก ตอนนี้อยู่ที่ ๑๖ องศาเซลเซียส หลังจากบิณฑบาตและฉันเช้าแล้ว กระผม/อาตมภาพได้นำพระภิกษุวัดท่าขนุน ไปรับบาตรจากคณะแพทย์พยาบาลและบุคลากรของโรงพยาบาลทองผาภูมิ นำโดยหมอนุ้ย (แพทย์หญิงนวลจันทร์ เวชสุวรรณมณี) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทองผาภูมิ ซึ่งจัดให้มีการใส่บาตรรับปีใหม่ทุกปี

    แต่เนื่องจากว่าวันที่ ๑ มกราคมนั้น ทางเทศบาลจองให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เข้าโครงการใส่บาตรสร้างกุศลรับปีใหม่ไปแล้ว วันที่ ๒ ทางชุมชนคุณธรรมต้นแบบวังท่าขนุน ก็จองทำบุญกลางบ้านทุกปี วันที่ ๓ จึงมาถึงคิวของโรงพยาบาลทองผาภูมิ

    ตั้งแต่ปีแรกที่หมอนุ้ยจัดงานแบบนี้ กระผม/อาตมภาพก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เนื่องเพราะว่าโรงพยาบาลแต่ละแห่งนั้น มีบุคคลที่เสียชีวิตชนิดตายซับตายซ้อนมากมายนับไม่ถ้วน แล้วจำนวนมากก็กลายเป็นสัมภเวสี ไม่สามารถที่จะไปผุดไปเกิดได้ตามบุญตามกรรมของตน ครั้นจะรอให้ญาติพี่น้องทำบุญไปให้ บางทีส่วนใหญ่ก็เป็นบุญผสมบาป ก็คือมีการฆ่าสัตว์ ไม่ว่าจะสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่เพื่อทำอาหาร ซึ่งเรื่องพวกนี้ บุคคลที่ตายไปแล้วจะกลายเป็นคนฉลาด เพราะรู้ดีว่าถ้าตนเองอนุโมทนาไป ก็เท่ากับยินดีในบาปของคนอื่น ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้กับตัวเองมากขึ้นไปอีก

    แต่ถ้าอย่างหมอนุ้ยนำคณะแพทย์พยาบาล และบุคลากรของโรงพยาบาลทองผาภูมิมาใส่บาตรนั้น จะเป็นข้าวสาร อาหารแห้ง และเครื่องสังฆทาน ซึ่งสามารถที่จะอุทิศส่วนกุศลให้ท่านทั้งหลายเหล่านี้ได้โดยตรง บางท่านรับส่วนกุศลแล้ว ถ้าหากว่ากรรมเบาบางอยู่ ก็จะมีคุณงามความดีคล้ายคลึงกับเทวดานางฟ้า เรียกง่าย ๆ ว่าอยู่ในขอบเขตของความสุข ต่อให้ต้องรอเวลาเกิดนานเท่าไรก็ไม่กังวลแล้ว ไม่อย่างนั้นแล้วตนเองตกอยู่ในสภาพของความทุกข์ ต้องร่อนเร่ไปหาญาติพี่น้องคนโน้นทีคนนี้ที ก็หาคนที่ทำบุญให้ได้ยากเหลือเกิน

    ดังนั้น..ในเรื่องดี ๆ แบบนี้ก็ได้แต่หวังว่า ทางคณะแพทย์พยาบาลของโรงพยาบาลทองผาภูมิ จะสืบต่อเจตนารมณ์ของหมอนุ้ยไปเรื่อย ๆ หมายความว่า ถ้าผู้อื่นเข้ามาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล ก็ควรที่จะสะกิดบอกกล่าวท่านว่า เรามีธรรมเนียมในการทำแบบนี้ เท่ากับว่าเป็นการสร้างกุศลให้แก่ตนเองด้วย เป็นการทำบุญหน่วยงานของตัวเองด้วย และมีผลพลอยได้ก็คืออุทิศส่วนกุศลให้กับบรรดาผู้ล่วงลับที่มีญาติหรือไม่มีญาติก็ตามไปด้วย กลายเป็นว่าได้ประโยชน์หลายส่วน จึงเป็นเรื่องที่กระผม/อาตมภาพต้องพยายามหาเวลาว่าง เพื่อที่จะมาร่วมงานทั้งหลายเหล่านี้ให้ได้ทุกปี
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,132
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,595
    ค่าพลัง:
    +26,441
    ส่วนในช่วงบ่ายนั้น กระผม/อาตมภาพไปนั่งปรกอธิษฐานจิตคุมธาตุ ในการหล่อพระประธานในวิหารของพระครูกาญจนสิทธิคุณ เจ้าคณะตำบลสหกรณ์นิคม เจ้าอาวาสวัดหินดาดผาสุการาม เมื่อเห็นหน้ากันก็ได้แต่ปรับทุกข์ คำว่าปรับทุกข์ในที่นี้ ส่วนหนึ่งก็คือเรื่องของการคณะสงฆ์ ซึ่งปัจจุบันนี้กระแสโซเชียลต่าง ๆ ไม่ได้ดีกับทางคณะสงฆ์เลย อย่างเมื่อวานนี้ก็เพิ่งจะมีพระที่เสพยาไอซ์แล้วก็พูดจาไม่รู้เรื่อง ทำให้เจ้าคณะปกครองและตำรวจต้องทำการสึกหาลาเพศไป..!

    เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ท่านต้องทำใจเลยว่า พระก็คือชาวบ้านนั่นเอง เพียงแต่ว่าเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย เปลี่ยนกฎเกณฑ์กติกาในการดำเนินชีวิตของตน ถ้าหากว่าขาดความละอายชั่วกลัวบาป ไม่รักศีลของตนเอง ไม่สำนึกในสมณสารูป ก็อาจจะทำเรื่องที่น่าเกลียดน่าชังในสายตาของชาวบ้านได้แบบนี้

    แต่ที่น่าสงสารกว่านั้นก็คือบรรดาบุคคลที่จิตใจหยาบมาก พอถึงเวลาก็ "คอมเม้นท์" แรง ๆ อยู่ในลักษณะตำหนิด่าว่า ซึ่งกระผม/อาตมภาพอยากจะให้ท่านทั้งหลายเหล่านี้ไปอ่านในธรรมบทเหลือเกิน ที่มีบุคคลไปด่าพระซึ่งต้องอาบัติปาราชิกแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้สึกหาลาเพศให้ถูกวิธี ยังคงห่มผ้าเหลืองอยู่ ปรากฏว่าผู้ที่ด่านั้นลงอเวจีมหานรกไปด้วย..!

    เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ผู้ที่ต้องอาบัติปาราชิกยังมีผ้าเหลืองที่เป็นธงชัยพระอรหันต์ห่มร่างอยู่ ประการที่สองก็คือตนเองไปด่าว่าผู้อื่น จิตประกอบไปด้วยโทสะ ในเมื่อโทษสองส่วนมารวมกัน ทำให้ต้องลงนรก เสียโอกาสในการสร้างคุณงามความดีของตนเอง จึงทำให้กระผม/อาตมภาพค่อนข้างที่จะเป็นห่วง บรรดาบุคคลที่ชอบ "คอมเม้นท์" อะไรอยู่ในลักษณะเหมือนอย่างกับว่า ตนเองเป็นคนดีเพียงคนเดียวในโลก สามารถที่จะด่าว่าคนอื่นได้หมด สามารถที่จะออกความเห็นแรง ๆ ได้หมด โดยที่ไม่ได้คำนึงเลยว่าสิ่งที่ตนเองกระทำนั้น จะส่งผลอย่างไรบ้าง ?
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,132
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,595
    ค่าพลัง:
    +26,441
    อีกส่วนหนึ่งก็คือการที่ปรารภเกี่ยวกับกิจการงานคณะสงฆ์ต่าง ๆ ว่า ทำอย่างไรเราถึงจะได้บุคคลที่ให้ใจกับงานได้ ? ซึ่งตรงนี้ไม่ต้องไกลไปถึงไหน บรรดาเพื่อนพระสังฆาธิการต่างก็ยกตัวอย่างเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนขึ้นมาว่า "ทำไมเราถึงไม่มีพระสังฆาธิการแบบหลวงพ่อเล็กมาก ๆ สักหน่อย ? ไม่ว่าจะงานใหญ่งานเล็ก งานใกล้งานไกล ถ้าเป็นงานคณะสงฆ์ ท่านจะทิ้งเรื่องส่วนตัวไปให้กับคณะสงฆ์ก่อนเสมอ" เป็นต้น

    ตรงจุดนี้กระผม/อาตมภาพมีข้อประพฤติปฏิบัติจำเพาะตนอยู่ก็คือว่า ถ้าเขาตั้งให้เราเป็นอะไร เราก็ต้องทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด ในขณะที่ตนเองเป็นเจ้าคณะตำบลชะแล เขต ๒ อยู่ เมื่อผู้บังคับบัญชาขอให้ไปเรียนต่อในระดับประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ กระผม/อาตมภาพก็ลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะตำบลอย่างไม่ลังเล เพื่อที่จะไปเรียนให้เต็มที่ ทั้ง ๆ ที่ผู้บังคับบัญชาหลายท่านก็ทักท้วงว่า "เราสามารถเป็นเจ้าคณะตำบลอยู่เหมือนเดิม โดยให้เลขานุการทำงานแทน" แต่กระผม/อาตมภาพเรียนถวายไปว่า "ถ้าเลขานุการทำงานผิดพลาด กระผมก็ต้องรับผิดชอบงานนั้นอยู่ดี เพราะฉะนั้น..ลาออกแล้วให้บุคคลอื่นที่เขามารับตำแหน่ง ทำงานแทนไปเลยจะดีกว่า"

    บังเอิญว่ากระผม/อาตมภาพโดนเพื่อนฝูงลากยาวในการเรียน ตั้งแต่ประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก รวมแล้วหมดเวลาไป ๑๐ ปีพอดี เมื่อกลับมาจึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลท่าขนุนเขต ๒ แล้วเลื่อนขึ้นมาเป็นรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ปัจจุบันนี้ก็ได้มีมติมหาเถรสมาคม แต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี แต่ยังไม่ได้รับพระบัญชาจากสมเด็จพระสังฆราช จึงต้องใช้ตำแหน่งรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิเหมือนเดิมไปก่อน

    หลักการปฏิบัติงานทุกอย่าง ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งไหนก็ตาม กระผม/อาตมภาพก็ยังถืออยู่ในลักษณะที่ว่า เมื่อเราได้รับตำแหน่งหน้าที่อะไร ก็ต้องทำงานนั้นให้ดีที่สุด เพียงแต่ว่าคำว่าดีที่สุดของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน ดีที่สุดของกระผม/อาตมภาพอาจจะกลายเป็นความมหัศจรรย์ในสายตาของพรรคพวกเพื่อนฝูงก็ได้

    อย่างที่ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระพรหมวัชรธีราจารย์, ศ., ดร. (สมจินต์ สมฺมาปญฺโญ, ป.ธ. ๙) องค์อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งได้พบหน้ากันในงานสมโภชหิรัญบัฏของท่าน ท่านยังปรารภว่า "วัดท่าขนุนนี่มาทุกงาน"
    กระผม/อาตมภาพจึงได้เรียนถวายท่านไปว่า "ถ้าเป็นงานของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กระผมให้ใจอย่างเต็มที่ครับ"
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,132
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,595
    ค่าพลัง:
    +26,441
    เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยถือว่าเป็นแหล่งเกิด เป็นแหล่งความรู้ที่กระผม/อาตมภาพได้ศึกษามาถึง ๑๐ ปี เท่านั้นยังไม่พอ ยังออกมาสอนลูกศิษย์อีก ๑๐ กว่าปี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็เท่ากับว่าชีวิตส่วนหนึ่งกลายเป็น มจร. คือมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย แบบเข้าเลือดเข้าเนื้อไปแล้ว

    ดังนั้น..ถึงต้องใช้เวลา ๕ ชั่วโมงในการวิ่งไปยังมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยวังน้อยก็ดี หรือใช้เวลาประมาณ ๔ ชั่วโมงในการวิ่งไปวัดปากน้ำภาษีเจริญก็ตาม กระผม/อาตมภาพเองนั้นก็ไม่ได้ถือว่าเป็นทางไกล โดยเฉพาะมีพลขับก็คือน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ซึ่งถือหน้าที่ในลักษณะเดียวกัน ก็คือถ้าหากว่าทำหน้าที่อะไรก็ต้องทำให้ดีที่สุด ยังเคยปรารภกันว่า "พวกเราเหมือนม้าอาชาไนย อย่างไรเสียก็คงจะตายในสนามรบ ไม่มีโอกาสที่จะอยู่เสวยสุขสบาย ๆ กับใคร" เพราะนิสัยส่วนตัวเป็นอย่างนี้มานั่นเอง

    เมื่อทำการนั่งปรกอธิษฐานจิตคุมธาตุ หล่อพระประธานให้กับพระครูกาญจนสิทธิคุณเสร็จแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินทางเข้าสู่วัดอุทยาน เพื่อที่จะไปร่วมงานในจังหวัดสุพรรณบุรีในวันพรุ่งนี้ต่อไป ระหว่างทางจึงได้ทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนนี้เอาไว้ก่อน

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันศุกร์ที่ ๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...