หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 21. ธรรมโอวาท เกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันในวงของผู้ปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านได้ให้ โอวาทเตือนผู้ปฏิบัติไว้ว่า "การมาอยู่ด้วยกัน ปฏิบัติด้วยกัน มากเข้าย่อมมีเรื่องกระทบกระทั่งกันเป็นธรรมดา ตราบใดที่ยังเป็นปุถุชนคนธรรมดาอยู่ ทิฏฐิความเห็นย่อมต่างกัน ขอให้เอาแต่ส่วนดีมาสนับสนุนกัน อย่าเอาเลวมาอวดกัน" การปรามาสพระก็ดี การพูดจาจ้วงจาบในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือท่านที่มีศีล มีธรรมก็ดี จะเป็นกรรมติดตัวเราและขัดขวางการปฏิบัติธรรมในภายหน้า ดังนั้น หากเห็นใครทำความดี ก็ควรอนุโมทนายินดีด้วย แม้ต่างวัด ต่างสำนักหรือแบบปฏิบัติต่างกันก็ตาม ไม่มีใครผิดหรอก เพราะจุดมุ่งหมายต่างก็เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์เช่นกัน เพียงแต่เราจะทำให้ดี ดียิ่ง ดีที่สุดเท่านั้น ขอให้ถามตัวเราเองเสียก่อนว่า "แล้วเราล่ะ ถึงที่สุดแล้วหรือยัง ?" http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7979
หากเห็นใครทำความดี ก็ควรอนุโมทนายินดีด้วย แม้ต่างวัด ต่างสำนักหรือแบบปฏิบัติต่างกันก็ตาม ไม่มีใครผิดหรอก เพราะจุดมุ่งหมายต่างก็เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์เช่นกัน เพียงแต่เราจะทำให้ดี ดียิ่ง ดีที่สุดเท่านั้น ขอให้ถามตัวเราเองเสียก่อนว่า "แล้วเราล่ะ ถึงที่สุดแล้วหรือยัง ?" สาธุ...หลวงปู่ครับ
ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
ถนนมันมีหลายสาย รถมันมีหลายคัน คนขับรถมันก็มีหลายคน แต่จุดมุ่งหมายเดียวกัน เพียงแต่หันหน้ารถไปยังจุดหมาย ทางสายไหนก็ได้ รถคันไหนก็ได้ คนขับคนพาไปคนไหนก็ได้ แล้วไปพบกันที่จุดหมายขอให้ทุกคนเดินทางโดยรวดเร็วและโดยสวัสดิภาพ อย่าทะเลาะกันสามัคคีกันไว้
สาธุ ครับหลวงพ่อมหาโพธิบารมีใหญ่ นักที่ปฏิบัติมาเพื่อเพ่งโทษผู้อื่นเป็นอาจินควรอ่านวันละ 100 รอบ จะได้รู้ว่าคนมีบารมีจริงๆเขามีจิตใจเป็นกลางยังไง จะได้มีสติอยู่กับตนตัวไม่เที่ยวไปเสียดสีระรานดูถูกใครอื่นเขาอีก ว่าเขาเลวตัวเองยังดีไม่พอก็ได้ชื่อว่าเป็นเลวยิ่งกว่าคนที่ถูกตำหนินั่นเอง แสดงว่าปฏิบัติมาเพื่อใช้ในทางโทษ เพราะชื่อก็บอกอยู่ว่าเพ่งโทษ ไม่ได้เพ่งประโยชน์ในส่วนดี จงทำความเข้าใจด้วยสติเป็นกลาง