บันทึกกรรมของฉัน

22 พย 66
0900 คุณณรงค์ โทรศัพท์เข้ามาหาฉันในสภาพที่ฉันอยู่ใน lucid dream
เทคโนโลยีนี้ฉันยังไม่คุ้นเคย
แต่เขาเก่งมากที่ติดต่อสื่อสารกับฉันในระดับจิตใต้สำนึก
เขาทำได้อย่างไรหนอ ฉันไม่เข้าใจ เขาเก่งมากมายค่ะที่รู้จักเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทั้งหลุมดำ ทั้ง lucid dream
ใน lucid dream นั้น เขาดีใจมากที่ติดต่อฉันได้ ฉันก็ดีใจที่เขาโทรมา
ดีใจที่สุดเลยจริงๆค่ะ…

 

ชั่วโมงบิน…
การเกิดเป็นสัตว์ต่างๆ หลากหลายสายพันธุ์นั่นขึ้นกับชั่วโมงบินนะคะ
การเกิดเป็นเพนกวินมีชั่วโมงบินแตกต่างกับการเกิดเป็นมด
การเวียนว่ายตายเกิดจึงเป็นเรื่องของการสะสมชั่วโมงบินและการเปลี่ยนคลาสเรียน
ชาตินี้เรียนการเกิดเป็นมด ชาติหน้าเปลี่ยนคลาส เรียนการใช้ชีวิตเกิดมาเป็นนกเพนกวิน เป็นต้นค่ะ
มดด้วยกันก็จะเห็นตัวเองเป็นมนุษย์นะคะ เพนกวินจะคิดว่าตัวเองก็เป็นมนุษย์ค่ะ งงไหมคะ
แต่เมื่อมดมาเจอกับเพนกวินจึงรู้ว่าตัวเองต่างเผ่าพันธุ์กัน
ทั้งๆ ที่แท้ที่จริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็น มด เพนกวิน หรือสัตว์ต่างๆ นั้น ล้วนเป็นมนุษย์ทั้งนั้น แต่มีการสะสมชั่วโมงบินที่ไม่เท่ากันค่ะ
เช่นนั้น จึงเห็นกายทิพย์ของพยานาคเป็นคนที่มีหางและลำตัวเป็นงู เช่นนี้เป็นต้น นั่นเองค่ะ
มีคนพูดว่า บางทีเราคือผีเสื้อที่กำลังฝันว่าตัวเองคือมนุษย์ค่ะ
เอามาจากเรื่องจอมคาถามหาติงต๊องค่ะ

 

1820 น้ำหนักของฉันเริ่มไม่ลดลงเลย
ทรงตัว
เกิดอะไรขึ้น
ฉันกลายเป็น Bridget Jones ไปแล้ว
ตุ้ยนุ้ย ติงต๊อง
ฉันต้องเร่งเมตาบอลิซึม

 

2240 แลบลิ้นปลิ้นตา เมื่อพูดถึงในหลวง…

วันนี้ระหว่างที่สนทนาแบบ video call กับ Ishak เขาถามฉันว่า ใส่ wrist band อะไร ฉันบอกว่า มันเขียนว่า ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป แล้วเขาถามว่า ฉันทำได้จริงหรือ ฉันบอกว่าได้สิ จากนั้น เขาก็แลบลิ้นปลิ้นตาออกมาโชว์ฉัน แถมชวนให้พับลิ้นแข่งกัน ฉันงงมากว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา เขากำลังเล่นอะไรอยู่ เหมือนเด็กๆ
ฉันมานั่งคิด นอนคิดว่า ใครอยู่ในร่างของเขา และทำไปเพื่ออะไร ?
ฉันเป็นห่วงเขามาก เขาดูแปลกประหลาดพิกล ตั้งแต่กลับมาคบกับฉัน
จึงบันทึกเอาไว้กันลืม

 

ข้อสันนิษฐานของฉันคือ พวกออสซี่อยู่ในตัว Ishak
เพราะในหลวงร.9 ท่านเคยถูกพวกออสซี่แกล้งตอนที่ท่านเสด็จออสเตรเลีย ท่านจึงกล่าวสุนทรพจน์ให้พวกออสซี่ฟังว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายร้อยปีแล้ว ทำให้พวกออสซี่อาย
ฉันจำได้…

—————————/////————————
“ความทรงจำ ในการตามเสด็จฯต่างประเทศทางราชการ” ตอนหนึ่ง เล่าถึงการเสด็จฯเครือรัฐออสเตรเลียเมื่อปี 2505 ที่ มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาบัตรนิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความว่า

“วันแรกที่ถึงประเทศออสเตรเลีย เราก็โดนดีทันที พอพิธีรับเสด็จที่สนามบินแคนเบอร่าเสร็จแล้ว พระเจ้าอยู่หัวก็เสด็จขึ้นประทับรถพระที่นั่งพร้อมด้วยข้าพเจ้า ทันใดนั้นก็มีเสียงพึบ ๆ ดังออกมาจากราษฎรกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมาคอยรับเสด็จอยู่มากมายสองข้างทาง ข้าพเจ้าหันไปดูอย่างแปลกใจ ก็เห็นตำรวจกับประชาชนที่ยืนอยู่แถวนั้น ช่วยกันปล้ำคว้าตัวผู้ชายผู้หนึ่งไว้ แต่ไม่ทัน ผู้ชายนั้นได้ยกมือสองข้างขึ้น แล้วคลี่ป้าย ... ป้ายนั้นมีใจความเป็นภาษาไทยว่า “เราไม่ต้องการต้อนรับผู้เผด็จการเมืองไทย” ครั้งนั้น เป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าได้เห็นคนเรียกพระเจ้าอยู่หัวว่า “ผู้เผด็จการ” และแสดงว่าไม่ยินดีต้อนรับเมื่อเสด็จมาถึงเมืองเขา ข้าพเจ้ารู้สึกใจหายวาบไปหมด กระซิบทูลถามพระเจ้าอยู่หัวว่าทอดพระเนตรเห็นป้ายไล่ผู้เผด็จการหรือไม่ รับสั่งตอบว่าเห็นแล้ว พลางหันไปทรงยิ้มและโบกพระหัตถ์กับประชาชนที่มาโห่ร้องต้อนรับ โดยไม่ทรงแสดงความรู้สึกแม้แต่น้อย

 

ต่อมา ถึงวันที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์นถวายปริญญาเอกทางนิติศาสตร์ (กิตติมศักดิ์) แด่พระเจ้าอยู่หัว ท่ามกลางคณาจารย์ “ปัญญาชน” ณ หอประชุม มีคนเต็มไปหมดคนสำคัญของเมลเบิร์นและนักหนังสือพิมพ์มากหลาย

เมื่อพิธีเริ่มต้น อธิการบดีลุกขึ้นไปอ่านคำสดุดีถวายพระเกียรติพระเจ้าอยู่หัว ก่อนที่จะถวายปริญญา ทันใดนั้นเอง ข้าพเจ้าได้ยินเสียงเอะอะ เหมือนโห่ปนฮาอยู่ข้างนอก คือกลุ่ม “ปัญญาชน” ที่ยืนท่าต่าง ๆ ไม่น่าดู เช่น เอาเท้าฟาดบนต้นไม้บ้าง ถ่างขาบ้าง มือเท้าสะเอวบ้าง ซึ่งจากเสียงโห่ปนฮาของเขา ดังพอที่จะรบกวนเสียงที่อธิการบดีกำลังกล่าวอยู่ทีเดียว ข้าพเจ้ารู้สึกโกรธพุ่งขึ้นมาทันที รู้สึกสงสารพระเจ้าอยู่หัว จนทำอะไรไม่ถูก ในที่สุดก็ฝืนใจมองขึ้นไปเพื่อถวายกำลังพระทัย แต่แล้วข้าพเจ้านั่นแหละที่เป็นผู้ได้กำลังใจกลับคืนมา เพราะมองดูท่านขณะที่ทรงดำเนินไปยืนกลางเวที เห็นพระพักตร์สงบเฉย

ทันใดนั่นเอง คนที่อยู่ในหอประชุม ก็ปรบมือเสียงดังสนั่นหวั่นไหว คล้ายถวายกำลังพระทัยท่าน พอเสียงปรบมือเงียบลง ก็เห็นพระเจ้าอยู่หัว ทรงเปิดพระมาลาที่ทรงคู่กับฉลองพระองค์ครุย แล้วหันพระองค์ไปโค้งคำนับกลุ่มที่ส่งเสียงอยู่ข้างนอก อย่างงดงามที่สุด น่าดูที่สุด พระพักตร์ยิ้มนิด ๆ พระเนตรมีแววเยาะหน่อย ๆ แต่พระสุรเสียงงามเรียบยิ่งนัก กระแสพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัวที่ตรึงใจทั้งหอประชุมและภายนอกมีความว่า

“ขอขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอันมาก ในการต้อนรับอันอบอุ่นและสุภาพเรียบร้อยที่ท่านแสดงต่อแขกเมืองของท่าน” รับสั่งเพียงเท่านั้นเอง ก็หันพระองค์มารับสั่งต่อกับผู้ที่นั่งฟังอยู่ในหอประชุม เสียงฮานั้นเงียบลงทันทีราวกับปิดสวิตช์ แล้วตั้งแต่บัดนั้นก็ไม่มีอีกเลย ทุกคนข้างนอก ข้างใน ต่างฟังพระราชดำรัสด้วยท่าทางดูขบคิด

ข้าพเจ้าเห็นว่าพระราชดำรัสวันนั้นดีมาก รับสั่งสดโดยไม่ทรงใช้กระดาษเลย ทรงเล่าถึงวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของไทย ว่า “เรามีเอกราช มีภาษาของเราเอง มีตัวหนังสือซึ่งคิดค้นขึ้นใช้เอง เราตั้งกฎหมายปกครองของเราเอง ให้สิทธิเสรีภาพแก่ประชาชนมา 700 กว่าปีมาแล้ว” ท่ามกลางพระสุรเสียงที่ตรึงใจชาวออสเตรเลีย และ “ปัญญาชน” หลังจากรับสั่งว่า 700 กว่าปีมาแล้ว ทรงทำท่าเหมือนพึ่งนึกออก ทรงสะดุ้งนิด ๆ แล้วโค้งพระองค์อย่างสุภาพเมื่อตรัสว่า
“ขอโทษ...ลืมไป...ตอนนั้นยังไม่มีประเทศออสเตรเลียเลย” แล้วทรงตรัสต่อไปว่า “แต่ไหนแต่ไรมา คนไทยเรามีน้ำใจกว้างขวางพร้อมที่จะให้โอกาสคนอื่น และฟังความคิดเห็นของเรา เพราะเราใช้ปัญญาขบคิดไตร่ตรองหาเหตุผลก่อน จึงจะตัดสินใจว่าสิ่งไรเป็นอย่างไร ไม่สุ่มสี่สุ่มห้าตัดสินใจอะไรตามใจชอบ โดยไม่ใช้เหตุผล”


เมือเสร็จพิธีถวายพระเกียรติเรียบร้อยแล้ว ก็จำต้องผ่านคนกลุ่มนั้นอีก เขายังคงยืนคอยเราอยู่ที่เก่า แต่อากัปกิริยาเปลี่ยนไปหมด บางคนหน้าตาเฉย ๆ ดูหลบตาพวกเรา ไม่มีการมองอย่างประหลาดอีกแล้ว แต่บางคนก็มีน้ำใจเป็นนักกีฬา พอที่จะยิ้มแย้มแจ่มใสโบกมือและปรบมือให้เราตลอดทางตนถึงที่รถพระทีนั่งจอดอยู่”

 

2314 ส่งภาพรับปริญญากับในหลวงไปลองเชิงกับออสซี่ในร่างของ Ishak ดูซิว่า Ishak จะมีปฏิกริยาอย่างไร
แถมเขียนว่า ชุดไทยที่ใส่คือ Traditional 700 year-old Thai dress

 

อีกไม่กี่ชั่วโมง รู้ผล
พวกออสซี่นี่เลวจริงๆ
ขนาดเป็นวิญญาณในร่าง Ishak
ยังไม่ให้ความเคารพ ในหลวงเลย
เลวจริงๆ

 

23 พย 66
0900 เช้านี้เขาเรียบร้อยขึ้นและพูดว่าเขาเคยเห็นภาพเหล่านี้ที่บ้านของฉันแล้ว
เขาดูปกติ
พวกวิญญาณนี่ต้องคอยปรามค่ะ มิเช่นนั้นจะดูถูกชาวผิวเหลืองอย่างพวกเราไม่มีที่สิ้นสุดค่ะ
บางยุคเขาเอา ไข่ปา ใส่คนผิวเหลืองเลยนะคะ
น่ารังเกียจมากๆ พฤติกรรมของชาวออสซี่ที่มีต่อชาวไทยและในหลวงของเรา

 

24 พย 66
2020 ช่วยกุหลาบ ไม่ทันแล้ว…
ได้ยินข่าวมาว่า มีการจัดทำดอกไม้จันทน์แล้วตอนนี้ ฉันไปออสเตรเลียไม่ทันจริงๆ และไม่แน่ใจว่าจะสามารถช่วยกุหลาบให้ฟื้นขึ้นมาได้หรือไม่หากรวมญาณเสาร์ห้า

 

ฉันไม่อยากคุยกับ Ishak แล้ว เขาเหมือนแขกหื่นกามเข้าไปทุกที บทสนทนามีแต่ขอรูป ขอรูป น่าเบื่อมากๆ ฉันไม่ใช่คนใจดีด้วย รู้สึกเบื่อขึ้นมาก็เลยไม่คุยดื้อๆเลย ฉันวางแผนจะไปเก็บวิญญาณที่ออสเตรเลียประมาณเดือนมีนาคมปีหน้า ว่าจะไปเที่ยว Fraser Island ด้วย ได้ยินว่าที่นั่นมี Underwater world เพราะสร้าง Great Barrier Reef’s ด้วยวิญญาณของสัตว์น้ำนับล้านล้านชีวิตคล้ายการสร้างกำแพงเมืองจีน ที่ใช้วิญญาณคนฝังเข้าไปในกำแพง แต่นี่เป็นกำแพงใต้น้ำที่ใช้วิญญาณสัตว์น้ำถมให้เป็นเขื่อนใต้น้ำขนาดมหึมา นั่นเอง

 

2040 ทำไฮไลต์ผมมาใหม่ เพื่อปิดบังอำพรางผมหงอก ต้องบันทึกไว้เพราะจะได้ทราบว่ากี่เดือนสีจะจาง ผู้หญิงน่ารำคาญตรงที่มีการ ทำสี เคลือบ เคาะ พ่น กันสนิม ครบถ้วน และต้องอาศัยงบประมาณมากกว่าผู้ชายเยอะ

 

2100 เกิดอารมณ์ตรงไหน???
ภาพโป๊ที่เคยเล่าให้เพื่อนสมาชิกฟังว่า ฉันแก่แล้วจึงถ่ายภาพส่งไปให้ Ishak หลายภาพ ซึ่งแต่ละภาพนั้น ฉันไม่เห็นว่า โป๊ตรงไหน แต่ทำไม เขาเกิดอารมณ์ ภาพโป๊ดาราไทย เด็ดกว่าภาพของฉันเยอะ มาดูภาพตัวอย่างของฉันนะคะ ไม่รู้ว่าจะโดนแบนในนี้ไหมนะคะ

 

ทำไมพวกผู้ชายนี่จินตนาการสูงจังเลยนะคะ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย แค่นุ่งกางเกงยีนส์เท่านั้น แค่นี้ก็จินตนาการไปต่างๆนานา ฉันเพิ่งเข้าใจว่า การใส่ยีนส์ ดีกว่าการนุ่งบิกินี่ค่ะเพื่อนๆ
ลองจับผู้ชายมาโพสต์แบบนี้บ้างนะคะ แล้วมาดูว่า ผู้หญิงจะเกิดอารมณ์ไหม คาดว่าไม่น่าจะเกิดค่ะ ฉันเอาวิธีถ่ายภาพให้ดูโป๊มาฝากค่ะ ทั้งๆที่มันไม่โป๊เลย แค่โฟกัสเลนส์ให้ถูกจุด แล้วปล่อยให้จินตนาการพาไปค่ะ

 

นอกจากนี้ ฉันถ่ายภาพตอนนอนหลับตาไปให้เขา เขาก็เอาไปจินตนาการต่ออีก มันแปลกจริงๆ ค่ะ พวกผู้ชายจะเกิดอารมณ์เมื่อเห็นกางเกงยีนส์และผู้หญิงนอนหลับค่ะ ที่ฉันรู้เพราะเขาสารภาพออกมา
เปิดดูไฟล์ 6283245

 

ฉันแก่แล้ว เพื่อนๆ อย่าหาว่าฉันลามกเลยนะคะ ฉันไม่เข้าใจผู้ชายจริงๆค่ะ ว่าทำไมมีสมองเยอะ แต่กลับเอามาใช้ในเรื่องอย่างว่ากันเสียเป็นส่วนใหญ่
ส่วนตัวของฉัน ไม่ทราบอยู่มาได้อย่างไร 40 กะรัตแต่ไม่รู้เลยว่า ควรใส่กางเกงยีนส์แล้วนอนหลับตา จะดูเซ็กซี่มากกว่าการใส่ชุดนอนกรุยกรายแล้วลืมตาโพลงค่ะ
555

 

2220 พระอาจารย์มิตสึโอะ คเวสโก้…
ฉันคิดว่า พระอาจารย์ได้ตัดสินใจถูกต้องแล้ว เพราะการมีคู่ครองนั้น อาจช่วยส่งเสริมสภาวะในการปฏิบัติได้ หากอยู่ในสภาวะพรหม
ทั้งนี้เนื่องจาก พรหมบนสวรรค์ เขาจะจับกันเป็นคู่ๆ เวลาหลับ ก็ผลัดกันนอนหลับ เวลาทำอะไร ก็ช่วยกันคิด มิใช่อยู่คนเดียวโดดเดี่ยวเอกา
ระยะเวลาของการเป็นพรหมก็แสนจะยาวนาน การอยู่คนเดียวนั้นไม่สามารถที่จะอยู่ได้ ฉันจำได้ว่า เพื่อนคนหนึ่งของฉันเวลามาเยี่ยมฉันนั้น คนในมิติทุกคนจะกลายเป็นหุ่นแข็งไม่ขยับตัวเลย เพื่อนของฉันก็จะเดินแทรกมิติมาเฉยๆ ผ่านหุ่นแข็งเหล่านี้มาได้สบายๆ เพราะเพื่อนของฉันอยู่มิติพรหม ซึ่งสูงกว่าเพื่อนที่กลายเป็นหุ่นแข็งเหล่านั้น
ลักษณะการเป็นหุ่นแข็งนั้น เหมือนในคลิปนี้ค่ะ

 

25 พย 66
1445 การข่มกามทำได้อย่างไร และทำเพื่ออะไร?
การข่มกามทำได้ง่ายๆนะคะ เริ่มจากการควบคุมอาหารมิให้เกิดสิ่งเร้า เช่น การรับประทานกล้วยของฉัน จะทำให้อารมณ์ปกติ สมู้ท ไม่แกว่ง
ทั้งนี้ ไม่ควรอิ่มเกินไปนะคะ ควรปล่อยให้หิวนิดหน่อย จะสามารถนั่งกรรมฐานได้มีสติดีและเป็นตัวของตัวเองมากกว่าเดิมค่ะ
ส่วนคำถามต่อไปคือ ข่มกามเพื่ออะไรนั้น คำตอบคือ เมื่อปิดก๊อกจักระที่ 1 แล้ว พลังงานจะไม่ไหลวนบริเวณนั้น เสมือนปิดก๊อกแล้วน้ำไม่ไหลบริเวณนั้น พอนานๆเข้า จะลืมไปเลยว่ามีก๊อกน้ำตรงนั้นค่ะ ทำให้มีความอดทนอดกลั้นสูง มีสิ่งที่ฝรั่งเรียกว่า can-do attitude จะมีความเคารพนับถือตนเองอย่างมาก จะคิดว่าเราแตกต่างจากสัตว์ก็เพราะเหตุผลนี้ และท้ายที่สุดจะมีสุขภาพจิตดีขึ้นเพราะจิตแข็งแกร่งโดยอัตโนมัติค่ะ

 

อาบน้ำแข็ง…เพื่อข่มกำหนัด
ฉันเคยทดลองวิธีสุดโต่งในการข่มกามคือการอาบน้ำแข็ง เนื่องจากฉันโดนสิ่งที่เรียกว่า ภาพหลุมดำ อันมีลักษณะคล้ายอีเป๋อ
ฉันมีอาการปวดแสบปวดร้อนที่จักระที่ 1 ตลอดเวลา จนไม่สามารถทานทนได้ ยิ่งปั่นจักระก็ยิ่งทรมาน ฉันจึงใช้วิธีอาบน้ำแข็ง
ผลปรากฏว่า ได้ผล อาการปวดแสบปวดร้อนหยุดชะงัก แต่ฉันต้องแลกมันมาด้วยอาการถูกธาตุไฟเข้าแทรก เวลาทำกสิณเทียน ฉันจะถูกเปลวเทียนบาดทรวง เสียวแปล๊บ แปล๊บ ในทรวงอก ซึ่งไม่น่าจะคุ้มกันเลย แต่ก็ไม่ทราบจะแก้ไขด้วยวิธีไหนแล้วจริงๆ

 

1800 บอกเลิกกับ Ishak สาเหตุเพราะ เข้ากันไม่ได้ในหลายๆเหตุผล
ฉันเคยบอกแล้วว่า ฉันไม่ถูกใจ human avatar ร่างไหนเลยจริงๆ
ฉันค่อนข้างเลือกและช่างสังเกต รวมทั้งระแวดระวังอีกด้วย
ฉันอยู่คนเดียวได้ เพราะฉันเคยชินกับการอยู่คนเดียว
ฉันคิดถึงชีวิตในบั้นปลาย โดดเดี่ยว ลำพัง